สรุปงานสัมมนา FMS Manufacturing & Business Solution
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 9.00 – 16.00 น.
ในวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 – 16.00 น. ที่ผ่านมา บริษัท ฟอร์เวิร์ด แมเนจเม้นท์ เซอร์วิส จำกัด (FMS) ได้จัดงานสัมมนา FMS Manufacturing & Business Solution
โดยงานสัมมนาในครั้งนี้ FMS ได้จัดขึ้น ณ โรงแรม Novotel Marina ศรีราชา จังหวัด ชลบุรี ภายในงานสัมมนาได้มีการพูดถึงเกี่ยวกับ Solution ที่เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต ทั้งในด้านของการวางแผนการผลิต และบาร์โค้ด ระบบ E-Tax รวมถึง Solution RPA : Robotic Process Automation
Session 01 : Sage 300 Version 2024
มีอะไรใหม่ใน Sage 300 Version 2024 บ้าง
1. ด้านการปรับปรุงความปลอดภัย มีการ Updated SQL Client เป็น Version 18 กำจัดโฟลเดอร์แชร์ข้อมูล การรักษาความปลอดภัยข้อมูลประจำตัวที่ได้รับการปรับปรุง
2. ด้านการรองรับของระบบ ระบบจะรองรับระบบปฏิบัติการ Window 11 ,Microsoft Office 2021 ,Microsoft Office 365
3. การเปลี่ยน User password มีการตั้งค่าความซับซ้อนในการตั้ง password เพิ่มขึ้น ตัวอักษรพิมพ์เล็ก ,ตัวพิมพ์ใหญ่ ,ตัวเลขอักขระพิเศษ (เช่น * หรือ #)
4. Financial Report มีการรองรับ Excel ขนาด 64 bit
5. สามารถเพิ่ม User ในการดู Activity ของ User ยกตัวอย่างเช่น การ Log in ,Log Out เป็นต้น
การปรับปรุงหน้าจอประโยชน์หลักบนหน้าจอ Sage 300 Version 2024
1. สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา
2. ติดตั้ง Sage 300 บน Server เท่านั้น ทำให้ประหยัดเวลาในการบำรุงรักษา
3. มี Dashboard สูงสุด 6 หน้าจอ สามารถแก้ไขและตั้งค่าชื่อ Titel ได้
4. มี Text Size ให้เลือก 3 ขนาด
5. Online Community สำหรับพูดคุย สอบถาม ผู้ใช้งานสามารถตั้งคำถามของตัวเองได้
6. Sage University สำหรับผู้ใช้ที่อยากจะเรียนรู้โปรแกรมเบื้องต้นด้วยตัวเอง สามารถเลือกเรียนตามหัวข้อที่สนใจได้
Session 02 : Manufacturing in Sage 300
Sage 300 Add-ons from AutoSimply
ทำไมต้อง Auto Simply
1. สร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ใน Sage 300 ERP
2. รูปลักษณ์และความรู้สึกที่เหมือนกันทุกประการ
3. การควบคุมสินค้าคงคลังเดียวและโซลูชันการคิดต้นทุนผ่าน I/C
4. โซลูชันล็อตเดียว/อนุกรมผ่าน I/C Serialized Inventory
5. โมดูลการจัดซื้อเดี่ยวผ่าน P/O
6. โมดูลการขายเดี่ยวผ่าน O/E
คุณสมบัติหลัก
1. พื้นที่การผลิตไม่จำกัด
2. รายละเอียดการผลิต (BOM)
3. การคิดต้นทุนทรัพยากรตามการดำเนินงาน
4. การคิดต้นทุนวัสดุโดย Sage 300 ERP (เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่)
5. การประมวลผลใบสั่งผลิตแบบเต็ม (MO)
6. ตัวเลือก MO Backflushing และการประมวลผล Kanban/JIT
7. การตรวจสอบงานระหว่างดำเนินการ (WIP)
ธุรกรรมการผลิต
Manufacturing App
Manufacturing App คืออะไร?
1. พัฒนาบนพื้นฐานของแพลตฟอร์มบาร์โค้ด Auto Simply
2. ความคล่องตัวที่ดีขึ้นด้วยความเรียบง่าย Interface สำหรับผู้ใช้แนวหน้า
3. ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าเพิ่มเติมยกเว้นเพื่อเพิ่มผู้ใช้บาร์โค้ด
4. ออกแบบมาเพื่อใช้กับ PC Desktop, Laptops และ Tablets ขนาด 10 นิ้ว
5. การสนับสนุนขั้นสูงสำหรับการสแกนบาร์โค้ด
6. รองรับระบบปฏิบัติการ Android/iOS/ แพลตฟอร์ม Windows UWP
Session 03 : Barcode in Sage 300
ทำไมต้องใช้ Barcode App
1. มีการอัพเดทข้อมูลแบบ Real-time
2. การ Scan ทำให้มีการทำงานที่รวดเร็วขึ้น
3. มีความพร้อมในการใช้งาน
คุณสมบัติของ Barcode App
Session 04 : Sales Anywhere in Sage 300
คุณสมบัติของ Sales Anywhere
ทำไมต้อง Sales Anywhere
1. บริหารจัดการธุรกิจข้อมูลได้ทุกที่
2. บันทึกภาพลายเซ็น & เก็บเงิน
3. เปิดใช้งาน POS โหมด ได้
Session 05 : Data Analytics ZAP BI for ERP Solution
ZAP BI เป็นตัวช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเอาข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในระบบ ERP มาวิเคราะห์และสร้างรายงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดายมากขึ้น
การจัดการข้อมูลที่สำคัญที่ควรพิจารณา
1.การจัดการข้อมูลบนCloud เน้นความเป็นส่วนตัว/ความปลอดภัยของข้อมูล
Cloud DM กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากองค์กรส่วนใหญ่ตระหนักถึงประโยชน์ที่แท้จริงของการย้ายข้อมูลบนCloud ช่วยให้องค์กรต่างๆเพิ่มหรือลดความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผลได้ตามความต้องการ และเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ ทุกเวลา โดยใช้อุปกรณ์ใดก็ได้
2.การเพิ่มขึ้นของ AI และการเรียนรู้ของเครื่อง
การใช้เทคโนโลยี เช่น การเรียนรู้ของเครื่องและปัญญาประดิษฐ์ในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลมีความสำคัญมากขึ้นในการจัดการข้อมูลในปัจจุบัน เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่และซับซ้อนได้ในระยะเวลาที่สั้น นอกจากนี้ยังช่วยในการคาดการณ์และวิเคราะห์แนวโน้มของข้อมูลเหล่านั้นเพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจและกำหนดกลยุทธ์ต่าง ๆ ในอนาคต การวิเคราะห์แบบเสริมด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ยังช่วยเพิ่มความเข้าใจและช่วยในการสร้างแพลตฟอร์มที่ให้ผู้ใช้สามารถสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย เช่นเครื่องมือ BI (Business Intelligence)
3.การวิเคราะห์แบบ self-service และเครื่องมือขั้นสูงในวงกว้างมากขึ้น
แนวโน้มนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากความสามารถในการให้ผู้ใช้ทางธุรกิจสามารถสร้างรายงานที่กำหนดและวิเคราะห์ข้อมูลโดยไม่จำเป็น สิ่งที่ทำให้องค์กรมีความคล่องตัวมากขึ้นและวิเคราะห์ข้อมูลในแบบที่ผู้ใช้คิดว่าเหมาะสม การวิเคราะห์แบบทำด้วยตนเองเป็นการส่งเสริมความคล่องตัว การทำงานร่วมกัน ด้วยการนำแอปพลิเคชันและเครื่องมือให้ผู้ใช้ทางธุรกิจในการเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูล องค์กรต่างๆ
ตัวอย่างการเชื่อมต่อข้อมูลจาก Platform อื่นๆ
อะไรที่ทำให้ ZAP BI แตกต่าง
1. การจัดการข้อมูลของเราเริ่มต้นจากการสร้างความแต่งตากจากเครื่องมือ BI อื่นๆ ทำให้การรวบรวม การรักษาความปลอดภัย และการเตรียมข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
2. มีการคำนวณที่มีประสิทธิภาพและพร้อมใช้งานทันที สามารถนำมาใช้ซ้ำกับการวิเคราะห์ทั้งหมดได้
3. Solution ของเราสามารถใช้งานได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง ด้วยการปรับใช้บนเว็บ
4. สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล ERP หรือใช้การเชื่อมต่อแบบหลายแง่มุมที่ซับซ้อน ทำให้ง่ายต่อการดึงข้อมูลล่าสุดทุกครั้งที่ต้องการ
Session 06 : Internet of Things: Keyence
Keyence มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการอ่านและตรวจจับบาร์โค้ด เช่น อุปกรณ์สแกนบาร์โค้ดและระบบอ่านบาร์โค้ดอัตโนมัติ ซึ่งนำมาใช้ในการจัดการสต็อก ติดตามสินค้า หรือในกระบวนการผลิตและจัดส่งสินค้า มีเทคโนโลยีการอ่านบาร์โค้ดที่มีความแม่นยำและเร็ว เช่น การใช้เลเซอร์หรือกล้องเพื่อสแกนบาร์โค้ดในขณะที่มีการเคลื่อนไหว และยังมีเทคโนโลยีการเติมจุดในส่วนที่หายไปของ Barcode ด้วย
นอกจากนี้ Keyence ยังมีระบบการจัดการข้อมูลบาร์โค้ดและซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการตรวจสอบและการนำข้อมูลบาร์โค้ดเข้าสู่ระบบของลูกค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ. การตรวจจับและการจัดการบาร์โค้ดเป็นส่วนสำคัญในการทำให้กระบวนการธุรกิจเป็นอย่างมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ.
การอ่าน Barcode ดียังไง ?
การสแกนบาร์โค้ดช่วยในการลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการเพิ่มข้อมูลและการรวบรวมข้อมูลสำหรับการประมวลผล ไม่ต้องเข้าสู่ระบบและบันทึกทุกอย่างด้วยมืออีกต่อไป การสแกนบาร์โค้ดที่มีข้อมูลทั้งหมดสามารถช่วยประหยัดเวลาและแรงงานได้มาก เพราะข้อมูลนั้นจะถูกบันทึกลงในคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติ ทำให้กระบวนการเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำมากขึ้น
Session 07 : AI Robotic Process Automation (RPA)
RPA เป็นการใช้ซอฟต์แวร์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อทำงานที่ซ้ำซ้อนและเรียบง่ายโดยอัตโนมัติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการกระทำงานที่ซ้ำซ้อนและทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หุ่นยนต์ที่ใช้ใน RPA มักจะทำงานบนคอมพิวเตอร์โดยจำลองการกระทำของมนุษย์ในการปฏิบัติงานต่างๆ
RPA ทำอะไรได้บ้าง? ยกตัวอย่างเช่น
1. Log in to any application เข้าสู่ระบบแอปพลิเคชันใดก็ได้
2. Move files and folders ย้ายไฟล์และโฟลเดอร์
3. Read and write to databases อ่านและเขียนลงฐานข้อมูล
กระบวนการทำงานของ RPAประโยชน์จากการใช้ RPA
1. คุณภาพสูง ไม่มีข้อผิดพลาดจากมนุษย์อีกต่อไป มีแต่ข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น
2. กระบวนการที่ชัดเจน กระบวนการที่มองเห็นและควบคุมได้ และหลีกเลี่ยงการโกง
3. ประสิทธิภาพสูง ทำงานเร็วขึ้น
4. เพิ่มทรัพยากรให้สูงสุด พนักงานสามารถมุ่งเน้นงานที่มีคุณค่าและสร้างสรรค์
Session 08 : ระบบ E-Tax
e-Tax คือ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่เปลี่ยนจาก ต้นฉบับรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทดแทนการออกต้นฉบับแบบกระดาษ ใบกำกับภาษีแบบกระดาษ คือการทำใบกำกับภาษีรูปแบบเดิม เริ่มจากผู้ประกอบการขายสินค้า จะมีการคีย์เอกสาร และพิมพ์เอกสารต้นฉบับและสำเนาลงกระดาษ จากนั้นก็จะส่งเอกสารไปยังผู้ซื้อ โดยผู้ซื้อเก็บต้นฉบับไว้ ส่วนผู้ขายรับสำเนากลับเพื่อจัดเก็บเข้าแฟ้ม และรักษาเอกสารอย่างน้อย 5 ปี หรือตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งต้องเช่าคลังเพื่อเก็บเอกสาร
e-Tax Invoice
e-Tax Invoice จะเป็นเอกสารต้นฉบับในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ผู้ขายสามารถนำส่งต้นฉบับใบกำกับภาษีให้ผู้ซื้อได้ในทันทีทางออนไลน์ รวมถึงการนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร โดยผู้ขายสามารถจัดเก็บต้นฉบับในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเก็บเอกสารในแฟ้มหรือคลัง ซึ่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จะมีการลงลายมือชื่อดิจิทัล มีใบรับรองตามที่กรมสรรพากรกำหนด ทำให้เกิดความน่าชื่อถือและตรวจสอบได้
ปัญหาจากการออกใบกำกับภาษีแบบเดิม
ปัญหาจากการออกใบกำกับภาษีแบบเดิมมีกระบวนออกใบกำกับภาษีหลายขั้นตอน ทำให้เกิดต้นทุนที่เกิดขึ้นต่อเอกสาร เช่น ค่าหมึก ค่ากระดาษ ค่าจัดส่ง เป็นต้น
การใช้ระบบ e-Tax ช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้โดยมีการทำให้กระบวนการออกใบกำกับภาษีเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และสะดวกสบายยิ่งขึ้นโดยสามารถทำได้ทั้งหมดอย่างอัตโนมัติผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และยังช่วยลดความผิดพลาดในการกรอกข้อมูลด้วยการตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลในระบบอย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและการเก็บรักษาข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและเรียบง่าย ในที่สุด การใช้ e-Tax ยังช่วยลดต้นทุนและเวลาในการดำเนินการทางภาษีอย่างมากด้วย
ประเภทการจัดทำเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1. e-Tax Invoice and e-Receipt เป็นหนึ่งในโครงการ National e-Payment มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการลดต้นทุน ในการออกใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงิน รวมถึงส่งมอบให้กับลูกค้าได้ทันที และสามารถส่งข้อมูลการซื้อขาย ให้กับกรมสรรพากรได้ตรงตามเวลา
2. e-Tax Invoice by Email เหมาะสำหรับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มรายย่อยที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี มีการออกใบกํากับภาษีจํานวนไม่มาก ไม่มีการบริหารจัดการด้านเอกสารที่เป็นระบบขนาดใหญ่ และอาจจะยังไม่พร้อมจะออกใบกํากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างสมบูรณ์
รวมภาพบรรยากาศภายในงาน